รสเผ็ดร้อนจากสมุนไพรในครัวที่ทุกบ้านมีไม่ขาดก็คือพริก กระเทียม บางบ้านปลูกกะเพราไว้ทำกับข้าว และขิง
วัตถุดิบที่เราใช้ทำอาหารหรือสมุนไพรรสเผ็ดร้อนนำมาปรุงยาระบายพิษไข้และช่วยรักษาอาการท้องร่วงได้ ซึ่งเป็นความรู้เก่าดั้งเดิมตามคัมภีร์วรโยคสารที่บอกว่ารสเผ็ดช่วยระงับพิษ
รสเผ็ดร้อนที่เป็นยาสามัญประจำบ้านอีกหลายตำรับที่มีสรรพคุณแก้ท้องอืด ท้องเฟ้อ แน่นท้อง จุดเสียด ปวดท้อง ได้แก่
ยาประสะกานพลู มีดอกกานพลูรสเผ็ดร้อนเป็นส่วนประกอบหลักร่วมกับกลุ่มยารสเผ็ดร้อนเบญจกูล สำหรับคุมธาตุ4
แอดมินเคยเคี้ยวดอกกานพลูแห้งเวลากินอาหารที่มีกลิ่นแรง เช่น ส้มตำปลาร้า ผักสะตอ น้ำพริกกะปิ ถ้าไม่มีที่ให้แปรงฟัน…ก็เอาดอกกานพลูแห้งมาเคี้ยวก่อนเลย .. มีรสเผ็ดร้อนปร่า
ตามตำราเป็นยาแก้พิษโลหิต แก้ปวดท้อง แก้ลมเป็นเหน็บชา แก้พิษน้ำเหลือง แก้อุจจาระให้เป็นปกติ แก้เลือดออกตามไรฟัน แก้ปวดฟัน แก้หืด ละลายเสมหะ ดับกลิ่นปาก
ยาประสะเจตพังคี มีสมุนไพรรสเผ็ดร้อนเจตพังคีและข่าเป็นส่วนประกอบหลัก
ยาประสะกะเพรา มีใบกะเพราเป็นส่วนประกอบหลักร่วมกับพริกไทย ขิง ดีปลี ผิวมะกรูด และมหาหิงคุ์ ยาร้อนตำรับนี้ใช้ได้ดีและปลอดภัยสำหรับเด็กทารกตั้งแต่อายุ 1-12 เดือน
ที่สำคัญ…สมุนไพรรสเผ็ดร้อนยังมีสรรพคุณเด่นช่วยฟื้นสุขภาพสตรีหลังคลอดลูกให้แข็งแรง ด้วยการชักมดลูกเข้าอู่และขับน้ำคาวปลา
ตำรับยาอยู่ไฟสตรีหลังคลอดสามัญประจำบ้านที่รู้จักกันดีก็คือ “ยาไฟประลัยกัลป์”
ประกอบด้วยกลุ่มสมุนไพรรสเผ็ดร้อนชุดใหญ่ ได้แก่ พริกไทยล่อน ขิง ดีปลี กระเทียม ข่า เจตมูลเพลิงแดง ผิวมะกรูด…เห็นรายชื่อสมุนไพรแล้ว..สมกับชื่อ “ยาไฟประลัยกัลป์”
นอกจากนี้ยังมีตำรับยาที่เรียกว่า “ไฟห้ากอง” เป็นยาสมุนไพรรสเผ็ดร้อนชุดเล็ก แค่ 3 ชนิด มี พริกไทยล่อน ขิง เจตมูลเพลิงแดง
ส่วนยาสมุนไพรที่กินเพื่อขับเลือดเสียในผู้หญิงหลังคลอดที่เป็นภูมิปัญญาพื้นบ้านที่แพร่หลายในชนบท ใช้เพียงชนิดเดียวคือ พริกขี้หนู นำมาตากแห้งแล้วเผาเป็นถ่าน เวลาจะกินก็ใช้ถ่านพริกขี้หนู 1 ช้อนชาละลายกับน้ำส้มสายชู วันละ 3 ครั้ง กินก่อนอาหาร
สมุนไพรรสเผ็ดร้อนมีสรรพคุณช่วยขับลมแล้ว ยังช่วยให้ร่างกายผ่อนคลาย บรรเทาอาการปวดเมื่อยร่างกาย
มีสูตรยาแผนโบราณตำรับใหญ่ มีชื่อว่า “ยาธรณีสัณฑะฆาต” ใช้พริกไทยล่อนเป็นตัวยาครึ่งหนึ่งของสูตร
ที่ปรุงขึ้นเพื่อแก้กษัยเส้น ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ แก้อาการเกร็งของกล้ามเนื้อในช่องท้อง
สมุนไพรไทยหรือวัตถุดิบทำอาหาร คนโบราณเอามาใช้ประโยชน์ในวิถีชีวิตของเรา
แม้กระทั่งในปัจจุบันเราก็ปฏิเสธไม่ได้ว่า เราไม่ได้กินสมุนไพร
#มูลนิธิสุขภาพไทย #สมุนไพรไทย
#สมุนไพรในครัว #สุขภาพชุมชนด้วยภูมิปัญญาท้องถิ่นด้านสุขภาพ #สสส.