ใช่แล้วค่ะ…อ่านไม่ผิด การย่างไฟ เป็นการบำบัดรักษาแบบหนึ่ง ซึ่งพบมากในภาคอีสาน
หมอยาอีสานเชื่อว่า หากได้รับการกระแทกอย่างรุนแรง ไม่ว่าจะตกต้นไม้ ควายชน รถชน ต้องย่างเพื่อกระจายเลือด ลดอาการบวม ไม่ให้เลือดที่เป็นลิ่มเป็นก้อนคั่งค้างอยู่ เพราะจะทำให้เจ็บป่วยเรื้อรัง นอกจากการย่างแล้ว จะมีการให้กินยาช่วยกระจายเลือด เช่น รากเจตมูลเพลิงแดง ฝาง น้ำตาล เป็นต้น
ส่วนการปวดเมื่อยตามร่างกาย ปวดตามเส้นเอ็น และกล้ามเนื้อสาเหตุมาจากการทำงานหนักเกินไป
เมื่อเกิดอุบัติเหตุขึ้น ก่อนที่จะหาสมุนไพรต่างๆ มาทำการย่างได้ สิ่งแรกที่จะให้ผู้ป่วยกิน ก็คือ เหล้าขาวกับน้ำตาล เพื่อกระจายเลือดลมป้องกันไม่ให้เลือดตีขึ้น
การย่างมีหลากหลายรูปแบบตามภูมิปัญญาของแต่ละท้องถิ่น ทั้งวิธีการและพิธีกรรมประกอบ
การย่างไฟนั้นเป็นการใช้ไอน้ำและความร้อนพาตัวยาและน้ำมันหอมระเหยจากสมุนไพรไปสัมผัสผิวหนัง แทรกซึมผ่านเยื่อบุเข้าสู่ร่างกายของคนผู้ป่วย และผ่านเข้าทางลมหายใจที่สูดเข้าไปด้วย ทำให้ตัวยาสามารถออกฤทธิ์ได้ทั่วร่างกายในเวลาอันรวดเร็ว ช่วยให้กล้ามเนื้อผ่อนคลาย
ขั้นตอนการย่างทำได้อย่างง่ายๆ
มีแคร่สำหรับนอน เตาถ่านหรือ สังกะสีรองถ่าน และผ้าห่ม
เตรียมสมุนไพร ที่นิยมใช้ในแต่ละท้องถิ่น เช่น ตำรับมหาสารคาม ใช้ว่านซน ใบหนาด ใบเปล้า เถาเอ็นอ่อน ว่านไฟ เปลือกแดง ใบมะขาม ใบเตย ยาเส้น ใบละหุ่ง (บางพื้นที่ใส่ขี้หมาแห้งด้วย)
เมื่อได้สมุนไพรมาแล้ว นำสมุนไพรมาปูบนแคร่ ปูให้ทั่วแคร่เป็นชั้นๆ หรือรวมกันก็ได้
ตั้งไฟใต้แคร่โดยใช้สังกะสีรองเพื่อที่จะสามารถควบคุมไฟได้และป้องกันการเกิดไฟไหม้ได้ ความร้อนที่ใช้ขึ้นอยู่กับความสูงของแคร่ ถ้าสูงมากก็ใช้ไฟแรงตามความเหมาะสมของการรักษา
นำผ้าครามมาปูทับสมุนไพรที่เตรียมไว้แล้วพรมน้ำให้พอเปียก
ผู้ป่วยขึ้นไปนอนบนแคร่ย่าง แล้วห่มผ้าให้ผู้ป่วย เพื่อรักษาอุณหภูมิภายในผ้าห่ม
รักษาอุณหภูมิของไฟให้อยู่ในระดับที่พอดีตลอดการย่าง
การย่างจะใช้ระยะเวลาที่แตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับระดับความรุนแรงของอาการป่วย แต่ละชุมชนจะมีเกณฑ์ในการพิจารณาที่ต่างกัน มีทั้งการย่างเป็นช่วงในแต่ละวัน หรือการนอนอยู่บนแคร่ย่างตลอดเวลาต่อเนื่องกัน โดยมีหมอและญาติดูแลอย่างใกล้ชิด
เมื่อผู้ป่วยมีอาการดีขึ้น หรือรู้สึกเบาตัวให้หยุดการย่าง
การบำบัดรักษาด้วยการย่างไฟยังมีอยู่ในชุมชนที่มีหมอพื้นบ้านเพราะต้องมีความรู้เรื่องสมุนไพรด้วย
หากอยู่ในเมืองไม่สะดวกทำการย่างไฟ เราก็ไปซาวน่าช่วยผ่อนคลายความเมื่อยล้าได้เช่นกัน