สาวไหนๆ ก็อยากหน้าใสทั้งน้าน แต่ถ้าสาวใดเริ่มมีใบหน้าหมองคล้ำ ดำเป็นปื้น เนื่องจากฝ้าคงสร้างความกลุ้มอกกลุ้มใจให้ไม่น้อย
ฝ้า เกิดจากผิวหน้าโดนแสงแดดที่ร้อนแรงแผดเผา การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนในร่างกายจากการใช้ยาคุมกำเนิด หรือระหว่างตั้งครรภ์ โดยทำให้ผิวหนังมีการสร้างเม็ดสีมากกว่าปกติ ฝ้ามักจะเป็นบริเวณที่ถูกแสงแดดมาก เช่น หน้าผาก โหนกแก้ม ดั้งจมูก ฯลฯ
การใช้ยารักษาฝ้าที่มีขายทั่วไปค่อนข้างเสี่ยงอันตรายเหมือนกัน เพราะบางชนิดมีส่วนผสมของสารปรอท ซึ่งก่อให้เกิดอันตรายมากทีเดียว ดังนั้นมาใช้สมุนไพรจากธรรมชาติดีกว่า แม้จะได้ผลช้า แต่ก็ปลอดภัย
สมุนไพรแก้ฝ้าที่น่ารู้จัก
สูตรที่ 1เอาหัวผักกาดหั่นเป็นแว่นบางๆ ทาถูบริเวณที่เป็นฝ้าให้ทั่ว ทิ้งไว้สัก 5 นาที แล้วล้างออก ทำเช้า-เย็น ฝ้าจะค่อยๆ จางลง
สูตรที่ 2 ใช้น้ำเมือกว่านหางจระเข้ทาหน้าตอนเช้า และก่อนนอนทุกวัน ทาทิ้งไว้ประมาณ 5 นาที แล้วล้างออก
สูตรที่ 3 ใช้มะขามเปียก 1 กำมือ เอารกออกแล้วล้างน้ำให้สะอาด ผสมกับนมสด 2 ช้อนโต๊ะขยำให้เข้ากัน (ถ้าข้นเกินให้เติมน้ำลงไป) นำมากรองด้วยผ้าขาวบาง หลังจากนั้นเติมนำผึ้ง 1 ช้อนโต๊ะคนให้เข้ากัน แล้วนำครีมมะขามเปียกที่ได้มาทาให้ทั่วใบหน้า โดยบริเวณที่เป็นฝ้าให้ทานานหน่อย ทิ้งไว้อย่างน้อย 15 นาที จึงล้างออก ครีมมะขามสูตรนี้สามารถเก็บใส่ภาชนะที่สะอาด แล้วเก็บในตู้เย็นได้ประมาณ 1 เดือน
สูตรที่ 4 นำแตงกวาฝานบางๆ แล้วแช่ในนมสดประมาณ 10 นาที จากนั้นเอามาแปะบนใบหน้า ทำก่อนนอนทิ้งไว้ทั้งคืน รุ่งเช้าล้างออก
ฝ้าที่เกิดจากการตั้งครรภ์หรือใช้ยาคุมกำเนิดอาจหายเองได้ภายหลังคลอด หรือหลังจากหยุดใช้ยาคุมกำเนิด แต่ต้องใช้ระยะเวลานานหน่อย
การรักษาฝ้านั้นอย่าใจร้อนหมั่นทำเป็นประจำอย่าท้อแท้ ฝ้าที่อยู่ตื้นๆ มักรักษาได้ผลดี แต่ฝ้าที่อยู่ลึกอาจได้ผลช้าหรือไม่ได้ผลเลย ฉะนั้นต้องเผื่อทำใจไว้ด้วย
โดย มูลนิธิสุขภาพไทย