“แก่แล้วแก่เลย” คือข้อสรุปสำหรับสาวที่คิดว่าจะเริ่มรักษาผิวหน้าเมื่อเห็นว่าท่าทางมันไม่ค่อยดีแล้ว กว่าจะรู้เดียงสาก็สายไปเสียแล้ว ถ้าอยากจะผิวสวยหน้าใสก็ต้องเริ่มกันตั้งแต่เด็กเลย โดยไม่จำเป็นต้องพกสบู่เหลว โฟมล้างหน้า ทาครีมเป็นกระปุก เหมือนวัยรุ่นปัจจุบันก็ได้ ผลไม้ในเมืองไทยนี่แหละเป็นสมุนไพรบำรุงผิวที่ฝรั่งอิจฉาอยากใช้แบบสดๆ แต่หาไม่ได้ต้องสกัดเป็นสารในรูปแบบต่างๆไปใช้ ส่วนบ้านเรานั้นใช้ทั้งกินทั้งทาในผลเดียวกันยังได้เลย
เราจะดูแลผิวหน้าตัวเองได้ดีต้องเริ่มจากการรู้จักสภาพหน้าตัวเองก่อน มิฉะนั้นการนำผลไม้สมุนไพรมาใช้แทนที่จะได้ผลดีอาจเป็นผลเสียเกิดขึ้นแทนได้ แล้วสภาพผิวหน้าของเราเป็นอย่างไร
1.ใครที่ทาแป้งเสร็จแป๊ปเดียว หน้านี่เยิ้มเอาไปทอดไข่ได้เลย อย่างนี้ก็เป็นคนผิวมัน
2.คนผิวแห้งทาแป้งแล้วไม่ค่อยติดผิวต้องใช้ครีมรองพื้นช่วย ยิ่งหน้าหนาวผิวจะแห้งเร็ว เป็นขุย มีอาการคันยิบๆ
3.คนผิวธรรมดาล่ะพวกนี้หน้าจะมันบ้างพอสมควร ถ้าไปออกกำลังกายหรือเดินมาจากที่ไกลๆ ทาแป้งติดนิดหน่อย ไม่ค่อยเกิดอาการคัน
4.ที่น่าสงสารมากเลยเขาเรียกว่าพวกผิวผสม คือบริเวณหน้าผาก จมูก จนถึงคางนี่จะมันแผล็บ แต่ผิวบริเวณข้างๆ ที่เหลือจะเป็นผิวธรรมดาหรือผิวแห้งไปเลยก็มี สาวผิวผสมจึงต้องแบ่งการแต่งหน้าเป็นส่วนๆ ตรงนี้นิดตรงนี้หน่อย อยากสวยดูดีแต่ธรรมชาติไม่เป็นใจก็เลยต้องเหนื่อยหน่อย
ผลไม้ที่จะแนะนำในวันนี้ ได้แก่ มะเขือเทศ มะละกอสุก กล้วยสุก และอโวคาโด้
มะเขือเทศ มีวิตามินเอ และมีสารอื่นที่ช่วยสมานผิวและยังทำให้สิวหัวดำหลุดออกได้ง่าย ถ้าใช้มะเขือเทศล้างหน้า หรือพอกหน้า จะทำให้ผิวหน้าที่ดำเป็นจุดๆ ลดน้อยลงจนดูขาวขึ้น วิธีใช้ เอามะเขือกเทศมาฝานปิดเอาไว้เฉยๆ ก็พอได้ สำหรับพวกหน้ามัน ส่วนผิวประเภทอื่นให้เอามะเขือเทศมาปั่นผสมกับรำข้าว(ในรำข้าวมีน้ำมัน) พอกหน้าได้เลย พอกได้นานพอสมควรอย่างสบายใจไม่ต้องกังวล จากนั้นล้างออกด้วยน้ำสะอาด
มะละกอสุก เป็นผลไม้ที่อุดมด้วยวิตามินเอ สามารถมาใช้พอกหน้าได้ ควรใช้เฉพาะมะละกอสุกเท่านั้น วิธีใช้ เช่นเดียวกับมะเขือเทศ มะละกอสุกนอกจากจะให้ความชุ่มชื้นกับผิวแล้ว เมือกที่มีอยู่ในเนื้อมะละกอจะช่วยทำให้การสูญเสียน้ำบริเวณผิวหน้าลดลง พอเราพอกทิ้งเอาไว้สักครู่ ล้างน้ำให้สะอาดแล้ว หน้าจะนุ่มขึ้นจนคุณสัมผัสได้
กล้วยสุก มีคุณสมบัติคล้ายๆ มะละกอ คือมีสารเมือกที่ทำให้ชุ่มชื้น ถ้าคุณเป็นคนผิวแห้งไม่ควรใช้กล้วยประเภทที่มีกลิ่นหอม อาทิ กล้วยหอม กล้วยไข่ กล้วยเล็บมือนาง เพราะน้ำมันหอมระเหยที่อยู่ในกล้วยที่มีกลิ่นหอมอาจทำให้เกิดความระคายเคืองได้ แต่ถ้าคุณมีผิวมันก็ลุยได้เลย น้ำมันหอมระเหยที่ว่านี้สามารถละลายในน้ำมันที่เยิ้มอยู่บนผิวหน้าคุณได้อยู่แล้ว จึงไม่เกิดการระคายเคืองแต่อย่างใด คนผิวแห้งจึงควรเลี่ยงไปใช้กล้วยน้ำว้าสุกแทน แต่คนผิวหน้าชนิดอื่นจะใช้กล้วยน้ำว้าสุกก็ได้เหมือนกัน เพราะราคาถูก หาซื้อง่ายกว่ากล้วยชนิดอื่น กินไปด้วยพอกหน้าไปด้วย นั่งในห้องดูทีวีอย่างมีความสุข
อโวคาโด้ ผลไม้ที่ปลูกอยู่ทางภาคเหนือ เป็นผลไม้ต้องห้ามสำหรับคนผิวมัน แต่เหมาะมากกับคนผิวแห้ง เพราะมีวิตามินอีและเนื้อในของอะโวคาโด้มีเมือกด้วย ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิวหน้า ควรพอกหน้าก่อนเข้านอนวันละครั้งก็ไม่เลว
ที่มาข้อมูล : ผศ.รุ่งระวี เต็มศิริฤกษ์กุล ภาควิชาเภสัชศาสตร์
คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล
