ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ จ.นครพนม หลังอุณหภูมิลดลงส่งผลให้สภาพอากาศเริ่มหนาวเย็น ในช่วงเช้า และมีหมอกลง เป็นโอกาสดีของชาวบ้าน ที่มีอาชีพแปลกแห่งเดียวของ จ.นครพนม คือ บ้านตาล ต.นาหว้า อ.นาหว้า จ.นครพนม ซึ่งชาวบ้านจะยึดอาชีพ ทำตุ๊กแก ปลิง และไส้เดือนแปรรูปอบแห้ง ส่งนอก ตลอดทั้งปีตามฤดูกาลสร้างเงินหมุนเวียนสะพัดปีละ หลาย 10 ล้านบาท
โดยในช่วงฤดูหนาว จะเป็นโอกาสดีกับชาวบ้าน ต่างพากันเร่งเก็บไส้เดือน ที่มีการอพยพย้ายถิ่นหาที่อยู่อาศัยในที่ชุ่มชื้น ก่อนเข้าช่วงหน้าแล้ง ส่งผลดีต่อชาวบ้านตาล มีรายได้จากการเก็บไส้เดือนมาแปรูปขายในช่วงฤดูหนาว ครอบครัวละ 20,000 – 30,000 บาท ต่อเดือน นางนงนุช แสงไผ่แดง อายุ 36 ปี ชาวบ้านทำอาชีพแปรรูปไส้เดือนตากแห้ง ชาวบ้านเสียว ต.บ้านเสียว อ.นาหว้า จ.นครพนม กล่าวว่า ในช่วงต้นฤดูหนาว จะเป็นการเริ่มต้นของชาวบ้าน ที่ทำอาชีพเก็บไส้เดือนมาแปรรูปส่งขายต่างประเทศ ซึ่งในช่วงเช้าที่อากาศเริ่มหนาวเย็น และมีหมอกลง ตามธรรมชาติไส้เดือนจะมีการย้ายที่อยู่อาศัย ในช่วงเช้าที่มีความชุ่มชื้น เพื่อหาที่อยู่อาศัยใหม่ในพื้นที่ชุ่มชื้น ก่อนถึงหน้าแล้ง เป็นโอกาสดีของชาวบ้านที่จะออกไปเก็บไส้เดือนมาแปรรูป ด้วยการชำแหละแผ่ท้อง ทำความสะอาด แล้วนำมาตากแห้ง นำไปส่งขายให้พ่อค้า ที่มารับซื้อส่งออกไปขายยังประเทศจีนและไต้หวัน เพื่อนำไปปรุงเป็นยาชูกำลัง ตามความเชื่อ ส่วนราคาตัวสดจะมีการรับซื้อกันในราคาประมาณ กิโลกรัมละ 20 บาท ก่อนนำไปแปรรูปตากแห้ง แล้วส่งขายในราคากิโลกรัมละ 200 บาท สร้างรายได้ให้กับชาวบ้านเป็นอย่างดีในช่วงนี้ บางคนสามารถเก็บไส้เดือนมาขายได้วันละ 1,000 – 2,000 บาท กลายเป็นอาชีพที่สืบทอดกันมากว่า 20 ปี ซึ่งจะมีพ่อค้ามารับซื้อไม่อั้น
ด้าน นายวีระ ฤกษ์วาณิชย์กุล นายอำเภอนาหว้า จ.นครพนม กล่าวว่า สำหรับบ้านตาล อ.นาหว้า จ.นครพนม ถือเป็นหมู่บ้านแห่งเดียวของ จ.นครพนม ที่มีรายได้จากการทำอาชีพแปลกตามฤดูกาล สะพัดปีละหลาย 10 ล้านบาท เช่นเดียวกับ อาชีพค้าไส้เดือนส่งออก ถือเป็นหนึ่งในอาชีพแปลก ที่ชาวบ้านตาล ทำสืบทอดกันมาหลาย 10 ปี ซึ่งเมื่อเข้าสู่หน้าหนาวชาวบ้านจะไปเก็บไส้เดือนมาขาย แปรรูป ตากแห้ง ส่งออกต่างประเทศ สร้างรายได้ให้ชาวบ้านเป็นอย่างดี ตกครอบครัวละ 20,000 – 30,000 บาท ถือเป็นอาชีพแปลกที่สร้างรายได้ มหาศาล มีเงินหมุนเวียนเดือนละนับล้านบาท ในหมู่บ้าน ในอนาคตจะได้หารือกับหน่วยงานเกี่ยวข้องที่จะพัฒนายกระดับอาชีพแปลกแปรรูป ไส้เดือนให้สามารถทำได้ตลอดปี ที่จะเป็นสร้างรายได้มากขึ้น
โดยจะต้องไม่กระทบต่อระบบนิเวศของธรรมชาติ ซึ่งเชื่อว่าจะเป็นอาชีพที่ทำเงินให้ชาวบ้านไม่แพ้อาชีพอื่น เนื่องจากมีตลาดรองรับไม่อั้น รวมถึงมีราคาดี ส่วนเรื่องการสูญพันธุ์นั้นเชื่อว่าไม่เป็นปัญหา เพราะไส้เดือนมีการขยายพันธุ์เร็ว ที่สำคัญในอนาคตจะได้หารือกับชาวบ้าน ที่จะพัฒนาส่งเสริมขยายให้เป็นอาชีพที่สร้างรายได้
นอกเหนือจากการทำการเกษตร พร้อมจัดระบบให้มีการป้องกันปัญหาเรื่องมลพิษ หรือส่งกลิ่นรบกวนชาวบ้าน รวมถึงเกิดปัญหาต่อระบบนิเวศในชุมชน หากมีการทำอาชีพนี้มากขึ้น ในระยะยาว และเชื่อว่าหากพัฒนาส่งเสริมการทำอาชีพแปลกตามฤดูกาล สามารถทำได้ตลอดปี และเพิ่มผลผลิตมากขึ้น จะทำให้อำเภอนาหว้า มีเศรษฐกิจหมุนเวียนสะพัดมหาศาลทีเดียว
ที่มา : ไทยรัฐ 15 ต.ค.56