ชาวบ้านโคกเพชร-หนองโฮง จ.บุรีรัมย์ เกือบทั้งหมู่บ้าน หารายได้เสริมช่วงหน้าแล้งเปิดไฟดักจับแมลงทั้งจิ้งหรีด กระชอน ตับเต่า ตามทุ่งนาในหมู่บ้านส่งขายตลาดและมีพ่อค้ามารับซื้อก.ก.ละ 150 บาท ปัจจุบันมียอดสั่งซื้อไม่พอขาย
นายสยาม พันธุมาศ ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านบ้านโคกเพชร-หนองโฮง เผยว่าจากสถานการณ์ภัยแล้งที่ขยายวงกว้างจนกระทั่งจังหวัดประกาศเป็นพื้นที่ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉินแล้ว 16 อำเภอนั้น ชาวบ้านเดือดร้อนอย่างหนักจากการขาดแคลนน้ำอุปโภค-บริโภครวมไปถึงการทำการเกษตร จึงต้องหาอาชีพเสริม ตอนนี้มีกว่า 30 หลังคาเรือนนำภูมิปัญญาดั้งเดิมมาปรับใช้เพื่อพลิกวิกฤตภัยแล้ง ใช้หลอดไฟดักจับแมลงตามทุ่งนาในช่วงกลางคืน ทั้งแมงกระชอน จิ้งหรีด และตับเต่า ไปประกอบอาหารรับประทานในครัวเรือนและส่งขายตามตลาด บางรายมีพ่อค้ามารับซื้อถึงหมู่บ้านในราคากิโลกรัมละ 150 บาท
ช่วงนี้แต่ละครัวเรือนสามารถดักจับแมลงได้ 3-4 กิโลกรัมต่อวัน หากนำไปขายก็มีรายได้เฉลี่ยวันละ 400-500 บาท สร้างรายได้เสริมให้กับชาวบ้านหลังฤดูทำนาได้เป็นอย่างดี บางวันยอดสั่งซื้อจนไม่พอขาย
อุปกรณ์ที่ใช้ดักจับแมลงก็จะมีหลอดไฟส่องสว่าง ถุงพลาสติกและกะละมังใส่น้ำเท่านั้น ส่วนวิธีการดักแมลงก็จะเปิดไฟล่อแมลงในเวลากลางคืนตั้งแต่ช่วง 1 ทุ่ม เพื่อให้แมลงบินออกมาชนพลาสติกที่ขึงไว้ จะตกลงไปในกะละมังที่เติมน้ำไว้ หากวันไหนมีแมลงเยอะชาวบ้านก็จะออกมาเก็บช่วงเที่ยงคืน และเก็บตอนเช้ามืดอีกรอบ ขายทั้งแบบสดและประกอบอาหารสำเร็จคั่วทอดวางขายตามตลาด
ด้านนายณรงค์ ประพิณ นายกเทศมนตรีตำบลหนองตาด บอกว่า อาชีพดักจับแมลงถือเป็นภูมิปัญญา สร้างรายได้เสริมในช่วงหน้าแล้งให้กับชาวบ้านได้เป็นอย่างดี ทางเทศบาลก็พร้อมจะส่งเสริมโดยมีโครงการจะจัดเทศกาลกินแมลง หรืออาจจะส่งเสริมให้มีการเพาะพันธุ์แมลงขายในอนาคตด้วย
ส่วนปัจจัยที่ทำให้ในพื้นที่หมู่บ้านดังกล่าวยังมีแมลงธรรมชาติอยู่เนื่องจากได้มีการรณรงค์ส่งเสริมให้ชาวบ้านไถกลบตอซังข้าวแทนการเผา จึงทำให้ระบบนิเวศน์ยังสมบูรณ์อยู่ ทั้งยังรณรงค์ไม่ให้ใช้สารเคมีในการทำการเกษตรอีกด้วย
ที่มา : ข่าวสด 31 มี.ค.2557