ชื่อบอกไว้ชัดว่า แคฝรั่ง ไม่ใช่ไม้ถิ่นเมืองไทย หลายคนเคยเห็นดอกสวยสดงามตาเป็นพวงห้อยระย้า จนหลงใหลในความงาม แต่ก็อาจไม่รู้จักชื่อว่า แคฝรั่ง ที่มีชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า Gliricidia sepium (Jacq.) Kunth ex Walp. อยู่ในวงศ์ PAPILIONOIDEAE (LEGUMINOSAE)
แคฝรั่งเป็นไม้ยืนต้นผลัดใบขนาดกลาง สูงได้ถึง 12 เมตร ลำต้นค่อนข้างตรง กิ่งก้านสาขาน้อย เปลือกเรียบหุ้มลำต้นสีขาวออกเทา เมื่อแก่แตกเป็นสะเก็ด และแน่นอนว่าเป็นพืชที่มาจากต่างประเทศ กล่าวกันว่า ถิ่นกำเนิดดั้งเดิมอยู่ในทวีปอเมริกากลางและเม็กซิโก ซึ่งพ่อค้าต้นไม้น่าจะเป็นผู้มีการนำเข้ามาในประเทศไทยเพื่อใช้เป็นไม้ประดับ ลักษณะใบ ใบเป็นใบประกอบ แบบขนนก ออกเป็นคู่เรียงตัวแบบตรงข้ามกัน ยาวได้ถึง 30 เซนติเมตร ก้านใบ มีใบย่อยรวม 11-15 ใบต่อก้าน ปลายใบแหลม โคนใบทู่ หน้าใบสีเขียวเข้ม หลังใบสีเขียวนวล มีขนสั้นละเอียดนุ่มปกคลุม ใบอ่อนสีน้ำตาล ขอบใบเรียบไม่มีจัก ผลัดใบ ช่วงฤดูหนาวเดือนตุลาคม-ธันวาคม ประมาณเดือนธันวาคม-พฤษภาคม จึงออกดอก ซึ่งในเวลานี้ก็น่าจะได้เห็นกันบ้างในแต่ละพื้นที่
เวลาออกดอกจะเป็นช่อตามโคนก้านใบและตาดอกที่ลำต้น ดอกมีสีชมพู-ขาว สวยงามรูปร่างคล้ายดอกถั่ว ฝักของแคฝรั่งจะแก่ราวเดือนสิงหาคม-ตุลาคม เป็นฝักแบน เมื่อแก่เปลือกฝักเปลี่ยนจากสีเขียวเป็นสีน้ำตาลหรือออกดำ ฝักจะแตกทั้ง 2 ด้าน ฝักหนึ่งมีเมล็ดประมาณ 4-10 เมล็ด มีสีน้ำตาลแดง เมล็ดแบนรูปไข่สีดำ แคฝรั่งจะเจริญเติบโตได้ดีในดินที่เป็นกรด ประมาณ 4.5 – 6.2 สามารถเจริญได้ดีในดินภูเขาไฟ ดินทราย ดินเหนียว และ ดินที่เป็นหินปูน แต่ก็มีคนปลูกต้นไม้แนะนำว่า แคฝรั่งปลูกได้ในดินทุกประเภท โตไวด้วย
แคฝรั่งมีจุดเด่นหรือมีการนำมาใช้ประโยชน์หลายประการ ที่นิยมกันคือมาใช้ในการจัดสวน เป็นไม้ประดับสวยงาม ให้ร่มเงาดีและเป็นไม้โตเร็ว เพียงแค่ปักชำ แคฝรั่งจะโตหรือสามารถสูงได้ถึง 2 เมตรภายในเวลา 1 เดือน บางทีก็นำมาใช้เป็นไม้เบิกนำในการฟื้นฟูที่ดินเสื่อโทรม และการโตเร็วยังนำมาปลูกเพื่อลดการกัดกร่อนของดินตามเขาด้วย
ดอกแคฝรั่งเป็นส่วนที่น่าสนใจมาก เพราะบรรดาผู้เลี้ยงผึ้งจะชอบมาก เมื่อดอกออกแล้วผึ้งจะมาตอมดูดน้ำหวานจากธรรมชาติและดอกแคฝรั่งให้ปริมาณน้ำผึ้งมากกว่าดอกไม้ชนิดอื่นๆ ที่แปลกอีกประการคือ ในบางประเทศเรียกหรือจัดว่าแคฝรั่งเป็นวัชพืช เพราะโตเร็วและอาจทำให้ไม้ชนิดอื่นโตช้ากว่า จึงเห็นว่าจะรุกรานไม้ชนิดอื่น ๆ แต่ถ้ามองในแง่การเจริญเติบโตได้เร็ว นำจุดดีนี้มาปลูกล่วงหน้าก่อนปลูกพืชชนิดอื่น เพื่อให้มีร่มเงาคอยค้ำจุนพืชอื่น ๆที่โตช้าได้
ในอัฟริกามีการใช้ประโยชน์จากต้นแคฝรั่งยกให้เป็นพืชบำรุงดิน จะทำสวนทำฟาร์มเกษตรอะไรถ้าได้ปลูกแคฝรั่งก็เป็นพืชช่วยจับไนโตรเจนในดิน ช่วยพืชผลการเกษตรเจริญงอกงามโดยไม่ต้องใช้ปุ๋ยเคมี เข้าใจว่าระยะหลัง ๆในเมืองไทยก็นำมาปลูกช่วยบำรุงดินกันบ้างแล้ว เพราะเห็นประเทศในเขตร้อนนิยมปลูกกันมากขึ้น แคฝรั่งยังนำไปใช้เป็นอาหารปศุสัตว์ มีผู้ปลูกเพื่อร่มเงาแก่ไร่กาแฟ ไม้ใช้ทำฟืน ใบหรือส่วนอื่นๆนำมาทำปุ๋ยพืชสด และมักปลูกเป็นแนวรั้ว พอดอกออกมาก็สวยงามมาก
ในลาตินอเมริกา ใช้แคฝรั่งในกิจการปศุสัตว์ โดยนำมาเป็นสมุนไพรไล่แมลงบนตัววัวและควายหรือสัตว์เลี้ยง โดยบดใบกับน้ำจนเป็นแป้งเปียก เอามาอาบน้ำให้กับสัตว์ ทำซ้ำทุก 7-14 วัน แมลงบนสัตว์เลี้ยงต่าง ๆก็จะลดลง ลดการติดเชื้อของสัตว์ด้วย มีการศึกษาพบว่าแก่นไม้ของแคฝรั่งมีสารที่ออกฤทธิ์เป็นพิษต่อแมลงบางชนิด และตัวอย่างในฟิลิปปินส์จะนำใบมาล้างน้ำ และนำไปคั้นกับน้ำได้น้ำยาทา สัปดาห์ละ 1-2 ครั้ง เพื่อไล่หรือกำจัดพวกหนอนพยาธิภายนอก และมีการนำมาเป็นสารกำจัดหนู และน่าจะพัฒนามาเป็นน้ำยาอาบน้ำให้น้องหมาได้ไหมคือกำจัดเห็บหมัดต่อไป
สำหรับการใช้เป็นยาสมุนไพรแบบพื้นบ้านนั้น ในประเทศไทยอาจยังไม่มีประสบการณ์ผู้ใช้ แต่ที่กัวเตมาลาใช้เปลือกและใบในการรักษาโรคผิวหนัง ในฟิลิปปินส์มีการใช้ใบบดจนละเอียดเป็นน้ำ หรือหีบเอาแต่น้ำใส่แผล มีการนำใบมาชงชาดื่มตอนเช้าในการแก้อาการทางตา (ซึ่งเป็นความรู้พื้นบ้านที่ยังไม่ได้มีการศึกษาวิจัย) เปลือกขูดเอาเนื้อสกัดเอาน้ำยางออกมาถูทาแก้อาการคันทางผิวหนังใช้กับแผลเลือดออกหรือแก้อาการคัน รากต้มน้ำดื่ม ลดอาการปวดท้อง สำหรับงานวิจัยการใช้แคฝรั่งในคนนั้นมีเพียงการวิจัยที่ใช้เป็นยาทาภายนอก แต่ผลการศึกษายังไม่ชัดเจนนัก
ในไทยนิยมนำดอกแคฝรั่งมาปรุงอาหารได้ เช่น ชุบแป้งทอด ทอดกับไข่ ดอกตูมผัดน้ำมัน หรือกินดอกเป็นอาหารกับน้ำพริก รสชาติหวานอร่อย มีการวิเคราะห์พบองค์ประกอบในพืชประกอบด้วยกรดแกลลิค กรดโปรโตคาเทชูอิค กรดพาราไฮดรอกซี่เบนโซอิคเจนทิสติก กรดเบต้ารีอไซคลิก กรดวานิลลิก กรดไซลินจิค กรดเฟอรูลิค กรดไซนาพินิค คูมาริน และ กรดไมริสเซทิน
ในช่วงเวลานี้เราสามารถชื่นชมดอกสวยงามและชิมดอกรสอร่อย แล้วก่อนฤดูฝนจะมาถึง เราเตรียมเมล็ดไว้โปรยหรือเตรียมวางกิ่งที่ชำไว้ลงในดิน เมื่อต้นงอกหรือตั้งตัวได้ แคฝรั่งโตไวให้ร่มเงา หรือไม้พี่เลี้ยงให้ต้นกาแฟ ต้นลำไย ต้นไม้อื่นๆ และเป็นโรงงานผลิตปุ๋ยในตัวของเขาเองในการช่วยบำรุงดินรอบข้าง แม้เป็นไม้ต่างแดนแต่ก็น่าปลูกให้ทั่วแดนสยามนะ.