ภก.ประพนธ์ อางตระกูล รองเลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) และโฆษก อย. กล่าวว่า อย. ได้รับเรื่องร้องเรียนจากสำนักงานสาธารณสุขจังหวัด (สสจ.) สระบุรี ให้ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณียาแผนโบราณ ชื่อ “ยาร่วมหว่านหัวใหญ่ สมุนไพรประดง 109” ซึ่งฉลากระบุ ใบอนุญาตเลขที่ บ.ภ.2480/2553 สถานที่ผลิตอยู่ที่วัดถ้ำไซย้อย บ้านหล่ม ต.บ้านหล่ม อ.ดอกคำใต้ จ.พะเยา มีหลวงพ่อแก้ว ธรรมโล เป็นผู้ปรุงยา ซึ่ง อย. เคยได้รับเรื่องร้องเรียนแล้วหลายครั้ง ทั้งนี้ จากการตรวจสอบพบว่า ยาดังกล่าวไม่ได้ขึ้นทะเบียนตำรับยาแผนโบราณ และได้ประสานงานไปยัง สสจ.พะเยา เพื่อตรวจสอบสถานที่ผลิตยา พบว่า ต.บ้านหล่ม ไม่มีชื่อ “วัดถ้ำไซย้อย” และหลวงพ่อแก้ว ธรรมโล ผู้ปรุงยา ตามที่ระบุบนฉลาก ถือว่าเป็นฉลากปลอม เพราะไม่พบสถานที่ผลิตและชื่อผู้ผลิตบนฉลาก
ภก.ประพนธ์ กล่าวว่า นอกจากนี้ ฉลากยังระบุรายละเอียดสรรพคุณยา ใช้รักษาโรคประดงเรื้อรัง โรคเศรษฐี เช่น ปวดหลัง ปวดเอว ปวดเส้น ปวดเมื่อยตามร่างกาย ปวดข้อ มึนชา โรคเลือดทำพิษ ตกใจง่าย หัวใจสั่น วิงเวียน หน้ามืด ตาลาย สายตาสั้น ผดผื่นคันตามร่ายกาย เป็นยาเจริญอาหาร ช่วยกินข้าวได้ นอนหลับดี ยานี้ถ้าผู้ป่วยได้กินตั้งแต่ 100 เม็ดขึ้นไป จะเป็นยาอายุวัฒนะ ถ้าเป็นมากให้กินมาก เป็นต้น ถือเป็นการจูงใจให้ผู้บริโภคตัดสินใจซื้อผลิตภัณฑ์มาใช้ และเป็นการโฆษณาอวดอ้างสรรพคุณเกินจริง จึงขอเตือนประชาชนอย่าตกเป็นเหยื่อหลงเชื่อซื้อมารับประทาน เพราะอาจได้รับอันตรายจากการใช้ยา เสียเงินโดยไม่จำเป็น ซ้ำร้ายอาจได้รับอันตรายถึงชีวิต
“ขณะนี้ อย. กำลังเร่งสืบสวนสอบสวนหาแหล่งผลิต และผู้จำหน่ายรายใหญ่ เพื่อดำเนินคดีทางกฎหมาย มิให้โฆษณาขายยาหลอกลวงผู้บริโภคต่อไป หากผู้บริโภคเลือกซื้อยาแผนโบราณมารับประทาน ขอให้ซื้อจากร้านขายยาที่มีใบอนุญาตขายยาเท่านั้น โดยปรึกษาแพทย์ เภสัชกร ก่อนซื้อยาทุกครั้ง อย่าหลงเชื่อโฆษณาขายยาทางอินเทอร์เน็ต วิทยุชุมชน เคเบิลทีวี ตลาดนัด ตามวัด หรือรถเร่ขายตามที่ต่าง ๆ เพราะ อย. ไม่เคยอนุญาตให้มีการโฆษณาขายยาอวดอ้างสรรพคุณเกินจริง ยาที่มีการโฆษณาผ่านสื่อต่าง ๆ ดังที่กล่าวมาข้างต้น เป็นการโฆษณาที่ผิดกฎหมาย หลอกลวงผู้บริโภค และอย่าซื้อยาเพียงเพราะคำโฆษณาชวนเชื่อ หรือพูดกันปากต่อปากว่าใช้แล้วได้ผล” รองเลขาธิการ อย. กล่าว
ที่มา : ASTVผู้จัดการออนไลน์ 24 ก.ย.2558