เนื่องในวันที่ 6 มี.ค.ของทุกปี เป็นวันต้อหินโลก ปัจจุบันประเทศไทยมีผู้ป่วยโรคต้อหินทั่วประเทศ 17,687 คน โดยเฉพาะกลุ่มเสี่ยงคือคนปกติที่มีอายุ 40 ปีขึ้นไปและผู้ที่ป่วยเป็นโรคเบาหวาน ทว่าสถานการณ์น่าเป็นห่วงที่สุดในขณะนี้อยู่ตรงความเครียดอันเกิดมาจากพฤติกรรมติดโซเชียลเน็ตเวิร์ก
นพ.ฐาปนวงศ์ ตั้งอุไรวรรณ ผู้เชี่ยวชาญโรคตา ประจำโรงพยาบาลพระนั่งเกล้า จ.นนทบุรี กล่าวว่าสาเหตุสำคัญของการเกิดโรคต้อหินในขณะนี้คือความเครียดที่มาจากพฤติกรรมใช้เทคโนโลยีมากขึ้น ทั้งคอมพิวเตอร์และสมาร์ทโฟน “ขณะนี้มีการใช้เทคโนโลยีกันมากขึ้นทั้งคอมพิวเตอร์ สมาร์ทโฟน ไอแพด โทรทัศน์ จนเกิดปัญหาที่เรียกว่าเทคโนโลยีซินโดรม แม้ไม่ได้ทำให้ภาพจอตาเสื่อมหรือตาบอดโดยตรง แต่จะทำใหัเกิดความล้าของสายตา ตาแห้ง เนื่องจากต้องใช้สายตาเพ่งตัวอักษร หรือภาพเป็นเวลานาน ยิ่งสมัยนี้มีผู้ที่นิยมปิดไฟเล่นคอมพิวเตอร์ เล่นสมาร์ทโฟน ไอแพด แชทเฟซบุ๊ก ทวิตเตอร์ ไลน์ในการติดตามสถานการณ์ทางการเมือง ยิ่งมีโอกาสเสี่ยงสูง เพราะต้องใช้สายตาตลอดเวลา”นพ.ฐาปวงศ์กล่าว
นพ.ฐาปนวงศ์ กล่าวต่อว่า อาการเตือนของความเครียด จะเริ่มรู้สึกแสบตา ตาแห้ง กะพริบตาบ่อย ปวดเมื่อยล้าที่กระบอกตา ถึงขั้นสายตาพร่าเลือน มองเห็นไม่ชัด คำแนะนำคือ ให้ใช้สมาร์ทโฟน หรือดูทีวีในที่สว่าง ห้ามเล่นติดต่อกันเกิน 25 นาที แล้วพักสายตา 5 นาที หรือเล่น 30 นาที พัก 10 นาที หากรู้สึกปวดตา ให้นอนหลับอย่างน้อย 7 ชั่วโมง และดื่มน้ำบ่อยๆเพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นในดวงตา
ทั้งนี้ ประชาชนที่มีอายุ 40 ปีขึ้นไป ควรพบจักษุแพทย์ปีละ 1 ครั้ง เพื่อตรวจค้นหาโรคต้อหิน โดยเฉพาะผู้ป่วยเป็นโรคเบาหวานจะเสี่ยงเป็นโรคนี้มากกว่าคนปกติถึง 5-7 เท่าตัว หากพบและรักษาทันท่วงทีอาจลดการสูญเสียการมองเห็นได้
ที่มา : โพสต์ทูเดย์ 6 มี.ค.57
