คนไทยรุ่นปู่ ย่า ตา ยาย รู้จักวิธีการส่งเสริมสุขภาพแบบสปามานานแล้ว เข้ายุคเข้าเทรนด์ตามฝรั่งเรียก Home Spa หรือสปาที่บ้าน ประโยชน์ของการอบสมุนไพรมีมาก ตั้งแต่ช่วยเพิ่มการไหลเวียนของโลหิต ช่วยให้ร่างกายผ่อนคลายลดความเครียด ใครปวดเมื่อย รับรองอบแล้วสบายคลายกล้ามเนื้อเส้นเอ็น ช่วยแก้อาการคันหรือแก้ผดผื่นคัน นอกจากนี้การอบไอน้ำเป็นประจำเป็นการช่วยขับพิษเสียออกจากผิวหนัง แล้วยังบำรุงผิวพรรณให้มีน้ำมีนวล แม้ไม่ทำให้ผิวขาวแต่ช่วยให้ผิวเนียนและนวล ไม่เหี่ยวย่น จึงขอโฆษณาให้สาวๆอบสมุนไพรเป็นประจำช่วยบำรุงผิว จึงอยากเชิญชวนหญิงชายทุกท่านเข้ากระโจม โรงอบประจำบ้าน เป็นการส่งเสริมสุขภาพกันถ้วนหน้า
สำหรับสูตรยาอบสมุนไพรมีหลายขนาน สูตรที่ใช้กันทั่วไป ได้แก่
1.ไพล
2.ขมิ้นชัน
3.ตะไคร้
4.ใบมะกรูด และจะผ่าลูกมะกรูดใส่ด้วยก็ได้
5. ใบมะขาม
6.ใบส้มป่อย ถ้าจะให้เด็ดขึ้นใส่ ว่านน้ำ ใบหนาด กระชาย ใบเปล้าใหญ่ อีกก็ได้
วิธีอบไอน้ำสมุนไพร
การอบสมุนไพรสายพันธุ์ไทยที่มีมาแต่โบราณนั้น แบ่งออกได้ 2 แบบ คือ อบแห้ง กับอบเปียก ในที่นี้จะกล่าวถึงการอบเปียก ก็คือการอบไอน้ำในกระโจมหรือในสุ่มไก่คลุมผ้า ที่เรียกว่าอบเปียก เพราะใช้วิธีต้มน้ำในหม้อพร้อมกับสมุนไพรหลายชนิด เมื่อหม้อน้ำเดือดแล้วก็ยกเอาเข้ากระโจม แล้วคอยแง้มฝาหม้อ ให้ไอน้ำสมุนไพรฟุ้งออกมาอบร่างกาย ไอน้ำกลิ่นสมุนไพรที่ระเหยออกมา เมื่อได้สูดดมทำให้จมูกโล่ง หายใจสบาย ถ้าอบเสร็จเก็บเอาน้ำในหม้อต้มไปอาบชำระล้างร่างกาย ช่วยเสริมสรรพคุณทางยาได้อีก
ใครสนใจอบแบบฉับพลัน ขอให้ 2 รอบอบครั้งละ 10 นาที แล้วออกมาพักสัก 5 นาที แล้วเข้าไปอบใหม่อีก 10 นาทีก็พอ อย่าอบมากไปจะทำให้ร่างกายเสียเหงื่อมาก แทนที่ร่างกายสดชื่นกลับทำให้อ่อนเพลีย หากนั่งอบแล้วหายใจไม่ค่อยสะดวกอึดอัดมากต้องรีบออกจากกระโจม แต่บางรายที่อยากสูดอากาศข้างนอกบ้างก็แย้มกระโจมโผล่หน้ามาหายใจ ส่วนร่างกายก็ยังได้อบไอสมุนไพรต่อไปได้
ข้อควรระวัง
อย่างไรก็ตามในการอบสมุนไพร มีข้อควรระวัง คือ ห้ามอบสมุนไพรสำหรับหญิงตั้งครรภ์ เด็กต่ำกว่า 10 ปี คนไม่สบายอ่อนเพลีย อดนอน อดอาหาร เป็นไข้สูง ความดันโลหิตสูง ปวดศีรษะ คลื่นไส้ โรคไต