หลายท่านทราบดีว่า“ผงชูรส” เป็นสารเคมีชนิดหนึ่งที่เป็นตัวการทำให้เกิดอาการมือสั่น หัวใจเต้นแรง ยิ่งถ้าร่างกายได้รับปริมาณที่มากเกินไป จะมีผลต่อระบบประสาท ทั้งยังเสี่ยงต่อการเกิดมะเร็ง กรณีผงชูรสไหม้ไฟ ทำให้เกิดกระแสเลิกบริโภคผงชูรสไปชั่วขณะ วิถีชีวิตของคนยุคปัจจุบันที่ต้องฝากท้องไว้กับอาหารถุง อาหารจานเดียว ทำให้โอกาสที่จะหลีกเลี่ยงจึงเป็นไปได้ยาก
ในวันนี้ มูลนิธิสุขภาพไทยขอนำเสนอภูมิปัญญาท้องถิ่น ทำน้ำนัวจากวัสดุธรรมชาติแทนการใช้ผงชูรส
“น้ำนัว” ซึ่ง นัว (ภาษาอีสาน) หมายถึง รสกลมกล่อมของอาหาร เช่น ต้ม แกง ลาบก้อย มีรสกลมกล่อม น้ำนัวถือเป็นการประยุกต์นำภูมิปัญญาท้องถิ่นมาใช้ กลุ่มชาวบ้านหนองกุงเต่า จังหวัดมหาสารคาม ด้วยตระหนักถึงผลเสียของการนำผงชูรสมาประกอบอาหาร จึงได้ทำการศึกษาวิจัยทำน้ำนัวภายในท้องถิ่น และนำมาใช้เป็นเครื่องปรุงรสชาติอาหารแทนผงชูรส สามารถนำมาประกอบอาหารได้ทุกชนิด ได้แก่ ส้มตำประเภทต่างๆ ไม่ว่าเป็นตำแตง ตำกล้วย และตำมะม่วง
จากงานวิจัยได้มีการทดสอบรสชาติ พบว่ารสชาติที่น่าพอใจ และได้รับการยอมรับจากคนในชุมชนเป็นอย่างมาก ซึ่งรสชาติของส่วนผสมต่างๆ มีทั้งหวานและเค็มกำลังดี น้ำนัวยังไม่มีการนำไปวิเคราะห์หาคุณค่าทางโภชนาการแต่ได้มีการตรวจสอบจากทางเทศบาลและโรงพยาบาลแล้วว่า มีความสะอาด ตรงตามมาตรฐาน และในส่วนประกอบบางตัวของน้ำนัวเป็นสมุนไพร มีคุณประโยชน์ต่อร่างกาย อันได้แก่ ใบหม่อน ขับเหงื่อ แก้เจ็บคอ แก้ไอ แก้ร้อนใน บำรุงไต ลดน้ำตาล
ในเลือด และสับปะรด แก้ไอ ขับเสมหะ ฟอกเลือด ขับปัสสาวะ แก้อักเสบตามข้อ
ส่วนประกอบน้ำนัว
1.ใบหม่อน 1 กำมือ
2.สับปะรด 3 กิโลกรัม
3.น้ำตาลทรายแดง 1 กิโลกรัม
4.เกลือ 3 ขีด
วิธีการทำ
1. นำสับปะรดมาปลอกเปลือก และสับเป็นท่อนๆ
2. นำใบหม่อน น้ำตาลทรายแดง และเกลือมาผสมคลุกเคล้าให้เข้ากัน
3. นำไปหมักในโหลแก้วเป็นเวลา 15 วัน จากนั้นก็สามารถนำมาปรุงอาหารต่างๆ
เท่านี้ก็เป็นอันเสร็จการทำน้ำนัว ซึ่งทำง่ายๆจากพืชสมุนไพรที่สามารถหาได้ทั่วไป ใครทำแล้ว ลองชิมดู รสชาดเป็นอย่างไรก็เขียนมาเล่าสู่กันฟังบ้างนะครับ
ที่มา : นุชนาด โฮมแพน เครือข่ายเกษตรกรรมทางเลือก
คู่มือพึ่งตนเอง 37 หลักสูตรเพื่อสุขภาพและความงาม