นอกจาก “พริก” เป็นยาขับลม บำรุงธาตุ ช่วยย่อย และทำให้เจริญอาหารแล้ว เรายังนำพริกไปทำเป็น ยาหม่องพริกหรือ ขี้ผึ้งพริก ได้อีกด้วย
สารที่ออกฤทธิ์ในพริกคือ แคปไซซิน (capsaicin) พบที่ไส้ของพริก มีคุณสมบัติ 3 อย่างในการแก้เคล็ดขัดยอกฟกช้ำได้ดีคือ
1.สารแคปไซซิน (capsaicin) มีฤทธิ์ระคายเคืองผิวหนัง ช่วยกระตุ้นให้หลอดเลือดที่ผิวหนังขยายตัว ทำให้เลือดไหลหมุนเวียนได้สะดวกขึ้น ประโยชน์ที่ได้คือเลือดที่หมุนเวียนมาจะพาอาหารมาซ่อมแซมส่วนที่ฟกช้ำ กำจัดของเสียและพิษจึงช่วยลดอาการเคล็ดขัดยอกได้
2.พริกช่วยลดอาการปวด พบว่า สารแคปไซซิน (capsaicin) จะออกฤทธิ์ที่เซลประสาท โดยไปชะลอการหลั่งของการสื่อสารประสาทที่ปลายประสาทที่เกี่ยวข้องกับสมองที่รับรู้การเจ็บปวด
3.มีการทดลองใช้แคปไซซิน (capsaicin) ทาผิวหนังอาสาสมัครพบว่าสารนี้ป้องกันการอักเสบหรืออาการบวมแดงไม่ให้ลุกลามต่อไปได้
จากคุณสมบัติเหล่านี้เองที่ทำให้ “พริก” เป็นส่วนผสมหลักในการทำยาหม่องบรรเทาอาการปวดข้อ ฟกช้ำ ปวดกล้ามเนื้อ และควรใช้ พริกขี้หนูในการทำยาหม่อง
การใช้ยาหม่องพริกให้ได้ผลดี มีเคล็ดลับนิดหน่อย
ควรทาและถูนวดไปด้วยสักพัก เพื่อให้พริกขี้หนูออกฤทธิ์และผิวหนังร้อน ควรทายาหม่องที่ผิวหนังอยู่เสมอ เพราะถ้าทาบางเกินไปจะไม่รู้สึกร้อน เมื่อผิวหนังหายร้อนก็ทาใหม่
สำหรับบางคนที่ผิวหนังแพ้สารแคปไซซิน ให้ทดลองใช้ ทดลองทาบางๆ ดูก่อน ถ้าแพ้จะมีอาการปวดแสบร้อน ผิวหนังแดง
บางคนบอกว่า ทายาหม่องพริกป้องกันยุงกัดได้ด้วย…เรื่องจะป้องกันได้จริงหรือไม่…ต้องลองใช้
ผลเป็นอย่างไร…บอกเราด้วยนะ