มั่นใจ ฝาง สมุนไพรดีและปลอดภัย

นักวิชาการและผู้เชี่ยวชาญด้านสมุนไพรได้ออกข่าวเคลียร์ชัดไปแล้วกรณีข่าว การกินน้ำฝางกับกาแฟจนถึงขั้นเสียชีวิตว่า สมุนไพรฝางกินแล้วไม่มีอันตรายถึงชีวิตแน่นอน และคาดว่าสาเหตุน่าจะได้รับสารพิษหรือสารอันตรายอื่น ๆ เข้าสู่ร่างกาย แต่จากข่าวสารทำนองนี้มักจะทำให้สมุนไพรตกเป็นจำเลยสังคมอยู่เสมอ ๆ เรามาเรียนรู้สมุนไพรฝางกันอีกสักครั้ง ซึ่งเป็นหนึ่งในสมุนไพรหลายชนิดที่อยู่กับวัฒนธรรมไทยมาเนิ่นนาน และหากสืบค้นก็พบปรากฏในตำราดั้งเดิมมาตั้งแต่สมัยอยุธยา

สมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราช ซึ่งเรารู้กันดีว่าตรงกับสมัยพระเจ้าหลุยส์ที่ 14 ราชาที่มีชื่อเสียงแห่งประเทศฝรั่งเศส ยุคนั้นกรุงศรีอยุธยาเจริญสัมพันธไมตรีกับฝรั่งเศสทั้งการค้าและวิทยาการสมัยใหม่ที่นำเข้ามาใช้ในประเทศ แต่พระนารายณ์ทรงมีวิสัยทัศน์กว้างไกลได้จัดการความรู้ รวบรวมตำรายาสมุนไพรสุดคลาสิกของไทยชื่อ ตำรับพระโอสถพระนารายณ์ ซึ่งมีตำรับยามากมายที่สำคัญ หนึ่งในนั้นมีสมุนไพร ฝางเป็นยาดี ที่ใช้คู่กับเปลือกต้นมะขามป้อม นำมาอย่างละเท่า ๆ กัน ต้มน้ำ 4 ส่วน เอา 1 ส่วน กล่าวว่า กินแก้ตกมูกตกหนักหรือแก้ท้องเสียอย่างแรงให้หยุดได้ สามารถช่วยเหลือชาวบ้านในยุคนั้นมามากต่อมากแล้ว และถ้าหาเปลือกต้นมะขามป้อมไม่ได้หรือไม่ทันการณ์ ก็แนะว่าใช้แก่นฝางอย่างเดียวก็แก้ได้

ฝาง ให้สีแดงหรือออกส้มแสด ดูจากสีให้ความรู้สึกร้อนแรง แต่ในแง่สรรพคุณกลับมีคุณสมบัติเย็น ในตำรายาไทย แก่นฝางมีสรรพคุณแก้ร้อนใน ช่วยลดความร้อนในร่างกาย กระหายน้ำ ซึ่งคนไทยรุ่นใหญ่หรือเด็กวัยรุ่นรุ่นปัจจุบันก็คุ้นเคยน้ำยาอุทัยที่นำมาผสมน้ำดื่มกินแก้กระหายและมีกลิ่นหอมนั้นก็ทำมาจากฝางนั่นเอง ดื่มกินมีความปลอดภัยและได้สรรพคุณดี ๆ ด้วย วัยรุ่นบางรายยังพลิกแพลงนำเอาสียาน้ำอุทัยที่ให้สีแดงธรรมชาติมาแต่งแต้มแก้มน้องนางให้แดงสวยแทนเครื่องสำอางได้ด้วย นอกจากนี้ฝางยังมีสรรพคุณโดดเด่นใช้เป็นยาบำรุงโลหิต ขับประจำเดือน ขับระดู แก้ปอดพิการ ขับเสมหะ และแก้ไอด้วย

พูดถึงสีแดงของฝางแล้ว ขอขยายความต่ออีกนิดว่า แดงจากฝางเรียกว่าสีแดงแซพปาน (sappan red) ซึ่งเป็นที่มาของชื่อพืชสามัญของฝางว่า ต้นแซพปาน หรือ Sappan Tree และชื่อวิทยาศาสตร์ก็ยังตั้งไว้ตรงกันว่า Caesalpinia sappan L. และมีชื่อเรียกทั่วไปว่า ต้นฝางหรือฝางเสนนั่นเอง สีของสมุนไพรมีความหมายมากกว่าแสดงความต่างของสีเท่านั้น เมื่อวิเคราะห์ด้วยความรู้สมัยใหม่พบว่าสีแดงของแก่นฝางมาจากสารชื่อ“แซพปานิน” (sappanin) ซึ่งมีฤทธิ์ยับยั้งเชื้อแบคทีเรีย แก้อาการอักเสบ แก้ท้องร่วง

แต่บางท่านให้ข้อสังเกตจากประสบการณ์จริงว่า ทำไมฝางมีสีออกชมพูอมส้มถึงแดงด้วยล่ะ คำเฉลยคือ ฝางยังมีสารอีกชนิดที่ให้สีดังกล่าว มีชื่อเรียก สาร “บราซิลิน” ซึ่งว่าตามสรรพคุณแต่โบราณจะช่วยบำรุงหัวใจ บำรุงโลหิตทำให้โลหิตเย็น กระจายโลหิต ขับระดู แก้เลือดกำเดา แก้ไข้ แก้ร้อนใน แก้อาการหอบหืด ซึ่งในเวลานี้มีการศึกษาทางเภสัชวิทยาสมัยใหม่พบว่า สารสำคัญชนิดนี้เป็นสารที่มีคุณสมบัติต้านฮีสตามีน (antihistamin) ช่วยแก้ลิ่มเลือดอุดตัน ทำให้ระบบการไหลเวียนโลหิตเป็นปกติ และแก้อาการหัวใจขาดเลือด

กล่าวโดยย่อ ฝางมีฤทธิ์เย็นและช่วยกระจายโลหิต สภาพภูมิอากาศแปรปรวนอุณหภูมิของโลกสูงขึ้น ความร้อนจึงอยู่รอบตัวเรานานขึ้นหากจะช่วยทุเลาความร้อน แนะนำต้มน้ำ ใช้แก่นฝางตอกเป็นชิ้นเล็ก ๆ ใช้ครั้งละ 100 กรัมต่อน้ำ 1 ลิตรครึ่ง ต้มเดือดแล้วหรี่ไฟอ่อน ๆ จนน้ำงวดเหลือ 1 ลิตร ดื่มอุ่นหรือทิ้งให้เย็นก็ได้ ดื่มน้ำฝางอย่างน้อยวันละ 2 ครั้ง ๆ ละ 1 แก้ว เช้า-บ่าย จะช่วยควบคุมความร้อนในร่างกายได้ระหว่างวันก็ควรดื่มน้ำเปล่า ในวันที่อากาศร้อน ๆ ควรดื่มน้ำอย่างน้อยวันละ 1-2 ลิตร ก็จะช่วยคลายร้อนได้ดี

สรรพคุณเด่นของฝางอีกสรรพคุณหนึ่ง คือ แก้ไอ ซึ่งมีตำรับยาแก้ไอดั้งเดิมพื้นบ้าน ที่ผ่านประสบการณ์ใช้มาอย่างยาวนานมากกว่า 50 ปี ขอกล่าวถึง ยาแก้ไอฝางตำรับนี้ นอกจากแก้ไอทั่วไปแล้วยังช่วยแก้ไอจากสาเหตุอื่น ๆ ได้ด้วย เช่น ไอจากหวัดและเจ็บคอก็ได้ ไอแบบคอแห้ง แก้ไอจากอาการหอบหืด และไอจากวัณโรคก็บรรเทาได้เช่นกัน ผู้ที่มีอาการหลอดลมอักเสบก็สามารถจิบยาแก้ไอขนานนี้บรรเทาได้

ตำรับยานี้ขอให้เครดิตไว้มาจากภูมิปัญญาของผู้ใหญ่วิบูลย์ เข็มเฉลิม อำเภอสนามชัยเขต จังหวัดฉะเชิงเทรา ตำรับยาประกอบด้วย ฝาง(บางทีเรียก ฝางเสน) 200 กรัม พริกไทยร่อน 200 กรัม กานพลู 50 กรัม สารส้ม 50 กรัม เปลือกหอยแครงแล้วทำเป็นปูนขาว 15 กรัม เมนทอล 25 กรัม การบูร 25 กรัม ดีน้ำตาลหรือใช้น้ำตาล 2.5 กรัม และน้ำสะอาด 5 ลิตร การปรุงยาเริ่มจาก สับเนื้อไม้ฝางให้เป็นซี่เล็กๆ คล้ายไม้จิ้มฟัน แล้วนำไปต้มกับน้ำให้เดือดสัก 15-30 นาที สำหรับส่วนผสมอื่นๆ ให้นำมาตำให้ละเอียด แล้วเก็บใส่โหลหรือภาชนะไว้ก่อน จากนั้นนำน้ำยาต้มฝางที่รอให้อุ่นๆ แล้วเทใส่ลงไปในโหลที่มีตัวยาอื่น ๆ ผสมกันจากนั้นให้แช่ตัวยานี้ไว้ 2-3 วัน โดยให้ทำการคนยาในโหลวันละ 1-3 ครั้ง เมื่อครบ 2-3 วันแล้ว ให้กรองเอาเฉพาะน้ำยาฝางเก็บใส่ขวดที่สะอาด นำมาจิบกินแก้ไอได้ เนื่องจากฝางเป็นยาที่มีรสเย็น ผู้ใหญ่วิบูลย์แนะนำว่า ไม่ควรกินต่อเนื่องนาน ๆ และอยู่บนหลักการใช้ยาว่าอาการไอหายแล้วก็ควรหยุดกิน แต่ถ้าอาการไอไม่หายสักทีก็แสดงว่าปัญหาสุขภาพนี้จะต้องพึ่งแพทย์ในการวินิจฉัยและรักษาแล้ว

ฝางยังเป็นสมุนไพรในตำรับของสตรีเกี่ยวกับการบำรุงโลหิต ซึ่งมีข้อควรระวังสตรีตั้งครรภ์ไม่ควรใช้ เพราะฝางมีสรรพคุณขับประจำเดือนอาจทำให้แท้งบุตรได้ แต่ในสามัญชนคนทั่วไปมีการนำฝางมาใช้ย้อมสีผ้าหรือแต่งสีในอาหารหรือขนมกินมีความปลอดภัย ในบางท้องถิ่นต้นฝางเป็นไม้หายาก จึงควรหันมาส่งเสริมไม้ยืนต้นขนาดกลางนี้ไว้เป็นทั้งอาหาร ยา และพื้นที่สีเขียว.

https://www.thefest.com/Images/acetoto888/ https://www.thefest.com/Images/acegaming888/ https://www.thefest.com/Images/plazaslot/
slot thailand