เมื่อวันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2559 พล.ร.อ. ณรงค์ พิพัฒนาศัย รองนายกรัฐมนตรีด้านสังคม ในฐานะประธานบอร์ด สสส. กล่าวว่า ต้นเดือนกุมภาพันธ์ 2559 ที่ผ่านมา ตนได้ลงนามในระเบียบของ สสส. ฉบับใหม่ รวม 15 ฉบับ เพื่อแก้ไขปัญหาดังกล่าว และกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ได้รายงานความคืบหน้าให้ พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) รับทราบแล้ว ทั้งนี้ ตามระเบียบ สสส. ฉบับใหม่กลุ่มดังกล่าว จะทำให้ สสส. ไม่สามารถอนุมัติงบประมาณให้กับมูลนิธิหรือองค์กรที่มีบุคคลใน สสส. เข้าไปเกี่ยวข้องได้อีก ซึ่งหลังจากนี้จะมีการออกกฎหมายเพื่อแก้ไข พ.ร.บ.กองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ พ.ศ. 2544 เพื่อให้มีผลบังคับใช้เป็นการถาวรต่อไป
“หลังจากนี้ พล.อ. ชาตอุดม ติตถะสิริ ประธานคณะกรรมการติดตามตรวจสอบการใช้จ่ายงบประมาณภาครัฐ (คตร.) จะเสนอให้ พล.อ. ประยุทธ์ ยกเลิกคำสั่งที่ให้ คตร. เข้าไปตรวจสอบการเบิกจ่ายงบประมาณของ สสส. คาดว่าจะได้ข้อยุติภายในสัปดาห์หน้า ทำให้ สสส. สามารถเบิกจ่ายงบประมาณได้ตามปกติ อันเป็นการปลดล็อกโครงการที่ถูกแช่แข็งอยู่กว่า 1.9 พันล้านบาท” พล.ร.อ. ณรงค์ กล่าว
เมื่อถามถึงการแก้ไขปัญหาการเรียกภาษีย้อนหลังกับมูลนิธิหรือองค์กรที่ได้รับงบประมาณจาก สสส. พล.ร.อ. ณรงค์ กล่าวว่า เป็นเรื่องที่ สสส. จะเข้าไปแก้ไขปัญหาเองในรายกรณี ตนไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง
เมื่อถามถึงความคืบหน้าในการสรรหาบอร์ด สสส. ผู้ทรงคุณวุฒิ 7 คน แทนผู้ที่ถูกปลดโดยคำสั่งหัวหน้า คสช. ที่ 1/2559 พล.ร.อ. ณรงค์ กล่าวว่า จะมีการประชุมบอร์ด สสส. ในวันที่ 19 กุมภาพันธ์ 2559 เพื่อพิจารณารายชื่อผู้เหมาะสม เบื้องต้นคณะกรรมการกฤษฎีกาได้ตอบกลับมายัง สสส. แล้ว แต่ไม่ได้ชี้ชัดว่าอดีตบอร์ด สสส. ผู้ทรงคุณวุฒิที่ถูกปลดทั้งหมดจะกลับมาสมัครได้หรือไม่ อย่างไรก็ตาม ไม่น่าจะเป็นปัญหาอะไร เพราะทั้ง 7 คน ไม่ได้สมัครเข้ารับการสรรหาแต่อย่างใด