นายวิชัย วิทยฐานกรณ์ อนุกรรมการความร่วมมือทางเศรษฐกิจระหว่างไทย-ยูนนานและจีนตอนใต้ กล่าวให้ความรู้กับคณะกรรมการร่วมภาครัฐและเอกชนในการแก้ไขปัญหาและพัฒนาเศรษฐกิจ จ.พิษณุโลก นักธุรกิจ และผู้บริหารสถานศึกษาในพื้นที่ จ.พิษณุโลก ว่า ประเทศจีนเวลานี้เจริญรุ่งเรืองอย่างรวดเร็วด้วยจำนวนประชาชนที่มีมากกว่า 1.3 พันล้านคน กับพื้นที่ 9.6 ล้านตารางกิโลเมตร นับเป็นประเทศที่มีพื้นที่ใหญ่ที่สุดในโลก
จากสภาพการแก่งแย่งแข่งขันสูง ทำให้ประชากรเอารัดเอาเปรียบ มีการใช้เงินซื้อสิ่งอำนวยความสะดวกเพื่อธุรกิจ และผลประโยชน์ตามความต้องการ จึงกังวลว่าหากมีประชากรจีนมาตั้งรกรากในประเทศไทย แต่คนไทยไม่เตรียมตัวทำอะไร ในอนาคตเราจะเป็นเพียงลูกจ้างในการผลิต ไม่มีโอกาสเป็นเจ้าของธุรกิจ ดังนั้นคนไทยต้องมองหาสิ่งที่จะทำให้เราอยู่รอดได้ หลังจากเปิดเออีซี
ด้าน นายสัญชัย ฐิติปุญญา รองนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดพิษณุโลก กล่าวว่า ต้องการกระตุ้นเตือนผู้ประกอบการ นักธุรกิจ และสถานศึกษาเตรียมตัวสู่ประชาคมอาเซียน เพราะเราจะเป็นผู้ผลิตสินค้าส่งขายเพื่อรับผลประโยชน์ จึงต้องเตรียมตัวเพื่อต่อสู้กับการแข่งขัน โดยเฉพาะประเทศจีนจะมีการผลักดันคนเป็นล้านคนออกมากว้านซื้อที่ดินในประเทศ ไทยหลายจุด โดยเฉพาะ จ.พิษณุโลกมีกระแสข่าวว่ามีการเตรียมตัวซื้อที่ดิน โดยอาจมาซื้อในรูปแบบของนักลงทุนจากจีน หรือเป็นนอมินี และตั้งธุรกิจในประเทศไทย
ทั้งนี้ต้องการสะท้อนปัญหาให้ภาครัฐช่วยหา มาตรการป้องกันก่อนที่ดินส่วนใหญ่จะตกไปอยู่ในมือของชาวต่างประเทศ นอกจากนี้วัตถุดิบอย่างสมุนไพรไทยก็ควรมีการอนุรักษ์ เพื่อเป็นเอกลักษณ์ของสินค้าไทยในอนาคต
“สิ่งที่น่าเป็นห่วงนอกจาก ปริมาณคนจากหลายประเทศจะเข้ามาได้อย่างเสรีแล้ว สินค้าราคาถูกก็จะเข้ามา เช่น กางเกง ราคา 100-200 บาท เพราะแรงงานในประเทศจีนถูกมาก” นายสัญชัยกล่าว
ที่มา : ประชาชาติธุรกิจออนไลน์
27 ก.ค.55