นางสาวสุภิญญา กลางณรงค์ กรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ด้านคุ้มครองผู้บริโภค และสิทธิเสรีภาพประชาชน เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบเฝ้าระวังการโฆษณาที่ผิดกฎหมายอาหาร และยา โดยสำนักงาน กสทช. ยังคงพบการโฆษณาอาหารและยาผิดกฎหมาย ไม่เว้นแม้แต่ในฟรีทีวี และในทีวีดิจิตอล เอง ล่าสุดมีคำสั่งให้ระงับการโฆษณาไปแล้ว ซึ่งนอกจากฟรีทีวีแล้วยังมีทีวีดาวเทียมอีก 11 ช่องรายการ
ทั้งนี้ตามขั้นตอนเมื่อ กสทช.ตรวจพบการโฆษณาผลิตภัณฑ์สุขภาพที่เข้าข่ายเป็นการเอาเปรียบผู้บริโภค จะประสานไปยัง สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) เพื่อพิจารณาตามกฎหมายที่อยู่ในการกำกับดูแล และเมื่อสำนักงาน กสทช. มีคำสั่งระงับโฆษณาแล้วหากฝ่าฝืนจะปรับวันละ 20,000 บาท ถัดจากนั้นจะมีการออกคำสั่งทางปกครอง ซึ่งปรับได้สูงสุดถึง 5 ล้านบาท ที่ร้ายแรงที่สุดคือ การพักใช้ เพิกถอน ใบอนุญาต และหากช่องใดกระทำผิดซ้ำซากก็จะส่งผลต่อการพิจารณาต่อใบอนุญาตด้วย
โดยความผิดส่วนใหญ่จะเป็นการโฆษณาอาหารและยาโดยไม่ได้รับอนุญาต โฆษณายาโดยแสดงสรรพคุณยาอันตราย เช่น สเปรย์น้ำสมุนไพรรักษาปวดประจำเดือน หรือไมเกรนได้ มีการลดแลกแจกแถม โฆษณาผลิตภัณฑ์เสริมอาหารอวดอ้างสรรพคุณเป็นยารักษาโรค ลดน้ำหนัก รับประทานแล้วขาวใส เพิ่มสมรรถภาพทางเพศ ซึ่งโฆษณาเหล่านี้ล้วนหลอกลวง เกินจริง เอาเปรียบผู้บริโภค หากหลงเชื่อซื้อหามาบริโภคนอกจากจะเสียทรัพย์แล้ว ยังส่งผลเสียต่อสุขภาพ และเสียโอกาสในการรักษาโรคอย่างถูกต้องด้วย
สำหรับปัญหาการโฆษณาอาหารและยา ทางสื่อวิทยุกระจายเสียงนั้น มีข้อมูลผลการเฝ้าระวังสื่อโฆษณาผลิตภัณฑ์สุขภาพทางคลื่นวิทยุในช่วงเดือนมิ.ย. – ก.ย. 2557 โดยเฝ้าระวัง 3 ครั้ง ครั้งละ 1 สัปดาห์ ทางสื่อวิทยุ 33 คลื่นใน 10 จังหวัด ซึ่งเป็นคลื่นหลัก จำนวน 31 คลื่น เป็นคลื่น FM 27 คลื่น และ คลื่น AM อีก 4 คลื่น พบว่า 88% มีการโฆษณาผลิตภัณฑ์สุขภาพผิดกฎหมาย โดยพบผลิตภัณฑ์ทั้งสิ้นจำนวน 103 รายการ แบ่งเป็นผลิตภัณฑ์อาหารและผลิตภัณฑ์เสริมอาหารจำนวน 54 รายการ ผลิตภัณฑ์ยา 35 รายการ และผลิตภัณฑ์เครื่องสำอาง 13 รายการ และโฆษณาสถานพยาบาล 1 รายการ ขณะนี้ อย. ได้พิจารณาแล้วพบว่ามีผิดกฎหมายจริง
ที่มา : นสพ.แนวหน้า 26 ธ.ค.2557